หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้นักลงทุน ลงทุนแล้วไม่ค่อยประสบความสำเร็จคือเรื่อง”ใจ”ครับ ไม่ใช่เป็นเรื่องใจเล็ก ใจใหญ่ ใจถึง ใจไม่ถึงหรอกครับ แต่เป็นใจที่นิ่งพอเวลาที่ต้องตัดสินใจลงทุน หรือไม่ลงทุน อย่างการลงทุนในหุ้นนะ หากเราเลือกลงทุนในกิจการที่ดี ในระยะยาวกิจการหรือหุ้นตัวนั้นต้องเติบโต แม้ระหว่างทางราคาหุ้นตัวนั้นอาจมีราคาที่ตกต่ำลงอย่างหนักในบางเวลา ถ้าจิตใจคุณมั่นคง ไม่มีความกังวลใดๆ เมื่อเวลา หรือเหตุการณ์ที่สร้างความกังวลนั้นผ่านไป ราคาหุ้นตัวนั้นก็จะปรับตัวเข้าสู่ราคาพื้นฐานที่มันควรจะเป็น หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ถ้าอสังหาฯที่คุณถืออยู่ดีจริง เวลาที่คุณจะขาย หากคุณใจเย็นพอ ไม่ร้อนรน คุณก็อาจจะขายได้ราคากว่าที่ต้องรีบๆขายก็ได้ คราวนี้ก็มาถึงคำถามสำคัญว่าจะทำยังไงให้ใจสงบเวลาที่จะลงทุน เอาอย่างนี้ครับผมถามกลับ ถ้าคุณรู้ว่าไม่ว่าการลงทุนของคุณจะเป็นอย่างไร ตัวคุณและครอบครัวจะยังคงมีเงินใช้อย่างสุขสบายเหมือนเดิม ทั้งในวันนี้และในวันข้างหน้า คุณว่าคุณจะต้องกังวลอะไรมากไหมกับเงินที่คุณลงทุน ถ้าคุณรู้ว่าหากมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงิน อย่างเช่นการเจ็บไข้ได้ป่วยที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง คุณจะมีเงินจ่ายได้แน่ๆโดยไม่ต้องรีบร้อนขายการลงทุนที่คุณมี คุณจะมีความสบายใจไหม ถ้าคุณรู้ว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ ครอบครัวคุณจะยังคงอยู่ได้ และอยู่ได้อย่างดี โดยไม่ต้องเร่งรีบในการขายการลงทุนที่มีเพื่อความอยู่รอด คุณว่าคุณจะมีความสงบสุขทางใจไหม ถ้าคำตอบของคำถามเหล่านี้คือ”ใช่” คำถามต่อไปที่คุณอยากรู้ก็คือจะทำยังไงใช่ไหมครับ คำตอบก็คือคุณต้องวางแผนการเงิน ก่อนวางแผนลงทุนครับ วางแผนการเงินคือการเตรียมเงินสำคัญสำหรับเป้าหมายการเงินสำคัญในชีวิตเช่นเป้าหมายการเกษียณอายุ เป้าหมายทุนการศึกษาของลูก เป้าหมายเงินสำรองฉุกเฉิน และการวางแผนสร้างความคุ้มครองอย่างเช่น การวางแผนประกันชีวิต และประกันสุขภาพ การวางแผนเหล่านี้ไม่ได้สร้างความร่ำรวยให้คุณโดยตรง แต่เป็นการวางแผนที่จะทำให้คุณลงทุนได้อย่างสบายใจ และเมื่อคุณมีความสบายใจ การลงทุนของคุณก็สร้างความรวยให้คุณได้ไม่ยากครับ