วันก่อนพี่ท่านหนึ่งได้เล่าเหตุการณ์ในบริษัทแห่งหนึ่งให้ฟัง

ในส่วนตัวผมไม่เคยได้ยินได้ฟังประสบการณ์ตรงแบบนี้มาก่อนเลย

พี่ท่านนี้เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่ผมเห็นว่า

มันโหดร้ายมากๆในความรู้สึกของคนทำงานให้ฟัง

เช้าวันหนึ่งทางGMได้เรียกประชุมพนักงาน30กว่าท่าน

วาระแรกและวาระเดียวของการประชุมคือ

การแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์ของบริษัท

ที่ไม่สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย

และมีผลประกอบการขาดทุน

เมื่อGMกล่าวจบก็ได้แจกซองจดหมาย

ที่คุณคงเดาได้ว่าเนื้อหาในจดหมายเป็นอย่างไร

พนักงาน30กว่าท่านยืนสตั๊นท์กับชีวิตที่เปลี่ยนแปลงกระทันหัน

จากเมื่อเช้ายังมีงานที่มั่นคงทำ

แต่ตอนนี้กลายเป็นคนตกงานทันที

เมื่อพนักงานกว่า30ท่านเดินคอตกออกไปจากห้องประชุม

บางคนมีคราบน้ำตา และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปดี

บางคนทำงานที่นี่มากว่า20ปี

บางคนเพิ่งซื้อบ้านมีภาระผ่อนบ้าน

บางคนลูกยังเล็กๆและตัวเองเป็นคนดูแลครอบครัว

หลังจากพนักงานทั้งหมดเดินออกจากห้อง

CEO ก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมจดหมายอีกหนึ่งฉบับ

และยื่นให้กับGMแล้วก็พูดคำพูดเดียวกับที่GMพูดกับพนักงานเมื่อสักครู่

มันเหมือนกับฉากๆหนึ่งในหนังชีวิต

ห้องทั้งห้องเงียบสงัดพร้อมกับคราบน้ำตา

ของคนที่ได้รับจดหมายทุกคน

คุณว่าเหตุการณ์แบบนี้

อาจเกิดขึ้นได้กับคนที่ทำงานเป็นลูกจ้างทุกคนไหมครับ

แล้วงานประจำของคุณหละ คุณมั่นใจไหมว่ามันจะไม่มี

ชีวิตของคนทำงานวันนี้ผมว่าต้องคิดเผื่อเรื่องนี้ไว้บ้างนะครับ

มันถึงเวลาที่คุณต้องคิดที่จะมีช่องทางของรายได้หลายๆทาง

ไม่ใช่ฝากชีวิตทั้งชีวิตไว้กับงานประจำ

และหวังว่าคุณจะอยู่กับมันไปจนถึงวันเกษียณ

ผมไม่ได้บอกว่าคุณต้องเบียดบังเวลางานประจำของคุณ

ไปทำงานอื่นโดยทำให้งานประจำของคุณต้องเสียหาย

แต่ผมว่าคุณน่าจะใช้เวลาที่คุณยังพอมี

มาคิดมาทำหาวิธีที่จะมีแหล่งรายได้เพิ่ม

ไม่ว่าจะเป็นงานที่คุณจะต้อง

ลงแรงกายแรงใจแรงคิดหรือแรงเงินก็ได้

คิดเผื่อ หาเผื่อได้เลยครับ

อีกอย่างที่ต้องเตรียมคือคุณควรมีเงินสำรองหรือเงินฉุกเฉิน

อย่างน้อย3-6เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน

แต่จะให้อุ่นใจ อาจเตรียมไว้ถึง12เดือนเลย

เงินก้อนนี้ให้อยู่ในสินทรัพย์ที่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้ง่ายๆ

เอาไว้ใช้ดูแลต้วเองและครอบครัว

ระหว่างยังหางานใหม่ทำไม่ได้ครับ

คนที่ทำงานประจำอยู่ครับ

หากวันนี้งานคุณยังดูเหมือนมั่นคงอยู่

คุณก็ควรไม่ประมาท

อย่าเพียงแต่สนใจว่าเงินเดือนคุณยังออกทุกเดือน

คุณต้องดูด้วยว่าตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทคุณเป็นเช่นไร

และเตรียมรายได้ทางอื่นและเงินฉุกเฉินไว้ด้วยนะครับ